การหาแอร์มือสองมาใช้งาน ถึงแม้จะช่วยทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายก็จริง แต่ถ้าหากท่านเลือกของมาไม่ดี ก็อาจจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากกว่าซื้อแอร์ใหม่ซะอีก เพราะซื้อมาแล้วอาจจะมีปัญหาที่ต้องแก้ไม่จบสิ้น เช่น คอมเพรสเซอร์เสีย แผงคอยล์รั่ว มอเตอร์เสีย ซื่งปัญหาเหล่านี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เพราะแอร์เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ยากแก่การที่ใครจะตอบได้ว่าจะใช้งานได้อีกนานแค่ไหน
ดังนั้นในการเลือกซื้อแอร์มือสองควรจะพิจารณาตามแนวทางคร่าวๆดังนี้
1) พิจารณาจากยี่ห้อแอร์ ถ้าแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในด้านความคงทนหน่อยก็จะมีภาษีดีกว่า อย่างเช่น Mitsubishi , Daikin , Carrier และ Panasonicเป็นต้น เพราะแอร์มือสองเราไม่รู้ว่าเจ้าของเดิมใช้งานมาหนักแค่ไหน ถ้าเลือกแบรนด์ที่ใช้วัสดุเกรดต่ำก็จะเสี่ยงต่อการรั่วหรืออะไหล่เสียมากกว่า
2) พิจารณาสภาพภายนอก ให้ดูสภาพภายนอกภายในก่อนว่าเป็นอย่างไร อุปกรณ์พลาสติกมีการแตกหัก หรือโครงเหล็กมีการผุกร่อนบ้างหรือไม่ ฐานยึดคอมเพรสเซอร์ยังสภาพดีหรือไม่ เพราะถ้ามีการเสียหายทำให้เราจำเป็นต้องหาอะไหล่มาเปลี่ยนในอนาคต(เสียเงินเพิ่มอีก)
3.สีของพลาสติก สีของพลาสติคของตัวทำความเย็นด้านในห้องของแอร์บางยี่ห้อพลาสติคจะดูเก่าๆเพราะผ่านการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมาเยอะ แต่ไม่ได้หมายความสภาพตัวเครื่องจะไม่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าสีพลาสติกยังดูใหม่ยังไงก็จะดีกว่า หนึ่งคือความสวยงาม สองคือเป็นการการันตีว่าแอร์ยังใช้งานมาได้ไม่นาน
4.ฝุ่นเยอะไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจฝุ่นที่เกาะบนตัวเครื่อง เพราะเราสามารถล้างทำความสะอาดได้
5. เลือกซื้อแอร์ช่วงหน้าหนาวหรือหน้าฝน เพราะจะมีแอร์ให้เลือกเยอะและราคาถูกกว่าหน้าร้อน(และหาช่างติดตั้งได้ง่ายกว่าด้วย)
6. ตรวจเช็คสภาพแผงคอยล์เย็นคอยล์ร้อน ว่าท่อมีคราบน้ำมันจากการรั่วซึมหรือไม่ ครีบระบายความร้อนมีการล้มหรือไม่ เพราะว่าถ้าเกิดครีบล้มมากเกินไป การระบายลมจะทำได้ไม่สะดวก ทำให้ก่อให้เกิดปัญหาแอร์ไม่เย็นได้
7. ดูสภาพการแพ็คเก็บแอร์ กรณีที่เจ้าของเดิมมีการถอดแอร์ลงมาเก็บไว้ ต้องดูว่ามีการปิดหรือพับท่อน้ำยา หรือว่ามีการเอาวัสดุใดมาปิดกั้นไม่ให้ฝุ่นหรือความชื้นเข้าหรือไม่ เพราะว่าถ้าในขั้นตอนการตัดเก็บ ไม่มีการปิดให้ดี ฝุ่นและความชื้นจะเข้าไปในระบบ จนทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคต
8. หาช่างแอร์หรือคนที่มีความรู้ไปเทสแอร์ด้วย ในกรณีที่ไม่ได้ให้คนขายติดตั้งให้ ควรให้ช่างเทสการทำงานของเครื่องให้ดีก่อน
9. ควรเลือกซื้อจากคนขายที่มีการประกัน แนวทางนี้ง่ายที่สุด ท่านไม่ต้องเสี่ยงอะไร ถ้ามีปัญหาร้านก็รับประกันให้ภายในเวลาที่กำหนด แต่ก็ควรเลือกซื้อกับร้านที่น่าเชื่อถือนะครับ (ร้าน Airsecondhand.com ก็มีประกันนะคร้าบบ)